สาหร่ายทะเลก้าวสู่สิ่งทอด้านแฟชั่นที่ยั่งยืน

นวัตกรรม / การออกแบบ
20/01/2568     |     อ่าน : 100 ครั้ง

สาหร่ายทะเลก้าวสู่สิ่งทอด้านแฟชั่นที่ยั่งยืน

สาหร่ายทะเลก้าวสู่สิ่งทอด้านแฟชั่นที่ยั่งยืน

มีการทำการวิจัยเกี่ยวกับวัสดุใหม่ๆ ที่อาจช่วยลดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมได้ วัสดุใหม่ที่น่าสนใจที่สุดอย่างหนึ่งคือวัสดุจากสาหร่าย ซึ่งนำไปสู่แฟชั่นแบบหมุนเวียนในอนาคต นักวิจัยเริ่มพิจารณาเกี่ยวกับสาหร่าย ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตเร็วทั่วโลก เพื่อพิจารณาว่าวัตถุดิบมีบทบาทอย่างยั่งยืนในภาคส่วนนี้หรือไม่ Tjeerd Veenhoven นักออกแบบแฟชั่นชาวดัตช์เป็นผู้ริเริ่มการใช้สาหร่ายเป็นวัสดุในการผลิตสีที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพในงานออกแบบ

                                                                           ที่มา : https://textiletoday.com

ประโยชน์หลักด้านสิ่งแวดล้อมของสิ่งทอจากสาหร่าย
สาหร่ายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตเร็ว ไม่ต้องการพื้นที่หรือน้ำจืดมากในการเจริญเติบโตสูงถึง 60 เซนติเมตรต่อวันในสภาพที่เหมาะสมและให้ผลผลิตมากถึง 30 ตันต่อเฮกตาร์ต่อปีโดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยใดๆ ในขณะที่ฝ้ายให้ผลผลิตเพียง 2 ถึง 3 ตันต่อเฮกตาร์ บางชนิดสามารถเพิ่มปริมาณชีวมวลเป็นสองเท่าภายใน 24 ชั่วโมง และสิ่งทอจากสาหร่ายสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ 100% ภายใน 3 ถึง 6 เดือน โดยไม่ทิ้งไมโครพลาสติกหรือสารเคมีอันตรายไว้ ซึ่งโพลีเอสเตอร์หรือผ้าที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่งอาจต้องใช้เวลาถึง 200 ปีในการทำปุ๋ยหมัก และเส้นด้ายชีวภาพใช้ปริมาณน้ำน้อยกว่าเส้นใยทั่วไป เช่น ฝ้าย ถึง 50 เปอร์เซ็นต์

การดูดซับคาร์บอนและผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ
สาหร่ายทะเลกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ในระหว่างการสังเคราะห์แสงทำหน้าที่เป็นแหล่งดูดซับคาร์บอนตามธรรมชาติ ตามการวิจัยของ “ฟอรัมเศรษฐกิจโลก” การปลูกสาหร่ายอาจกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 2 พันล้านตันต่อปีประมาณ 5% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดทั่วโลก เมื่อเปรียบเทียบกับการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลจำนวนมาก ซึ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 706 ล้านตันต่อปี

การป้องกันรังสียูวี:เส้นใยสาหร่ายช่วยปกป้องแสงแดดตามธรรมชาติในเสื้อผ้า
ดูดซับความชื้น:ช่วยให้เสื้อผ้าระบายอากาศได้ดีและแห้ง ใช้งานได้หลากหลาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องสำอาง

แบรนด์ผู้บุกเบิกด้านสิ่งทอจากสาหร่าย Vollebak แบรนด์จากสหรัฐอเมริกาเป็นที่รู้จักในด้านนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงเสื้อยืดที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพซึ่งทำจากเยื่อไม้และสาหร่ายทะเลย่อยสลายได้ภายใน 12 สัปดาห์ การใช้เม็ดสีจากสาหร่ายทะเลทำให้แบรนด์นี้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับแฟชั่นแบบหมุนเวียน ลดมลพิษทางน้ำจากอุตสาหกรรมทั่วโลกที่เกิดจากการย้อมผ้าได้ 17-20%

การขยายการใช้งานสิ่งทอจากสาหร่าย คาดว่าจะมีมูลค่าถึง 6.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2027เนื่องมาจากความเข้ากันได้ทางชีวภาพและคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ถูกนำไปใช้ในทางการแพทย์ เช่น ผ้าพันแผลและการปลูกถ่ายที่ย่อยสลายได้ คาดว่าจะขยายตัวที่อัตรา CAGR 6.2% ในอีก 5 ปีข้างหน้า อุตสาหกรรมสิ่งทอภายในบ้านที่ยั่งยืนได้รับการประเมินไว้ที่3.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 คาดว่าตลาดบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางจากสาหร่ายจะเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจะแตะระดับ 660 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2023

ความร่วมมือแบรนด์ต่างๆ เช่น Pangaia ร่วมมือกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมและมหาวิทยาลัยวิจัยเพื่อขยายการผลิตสิ่งทอจากสาหร่ายภายในปี 2050 วัสดุนี้จะกลายเป็นอนาคตของแฟชั่น เนื่องจากเติบโตอย่างรวดเร็ว ดูดซับคาร์บอน ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และแทบไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเลย ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความต้องการของผู้บริโภค

อ้างอิง : https://textiletoday.com.bd/algae-based-textiles-becoming-the-next-frontier-in-sustainable-fashion

ข่าวสารความเคลื่อนไหว
เครือข่าย IWIN เปิดตัวโครงการ Circular Upholstery Textile เป้าหมายเพื่อเปลี่ยนเส้นทางของเสียจากหลุมฝังกลบกลับมาใช้ใหม่และการรีไซเคิล
Le Casino เปลี่ยนขยะเป็นโอกาสกับเส้นทางเดินของรองเท้ารักษ์โลก
ญี่ปุ่นตั้งเป้าขยายธุรกิจเศรษฐกิจหมุนเวียน
ยุทธศาสตร์ใหม่ของสหภาพยุโรปสำหรับสิ่งทอที่ยั่งยืนและสิ่งทอหมุนเวียน
COP27 เริ่มแล้ว ประเด็นร้อนการหารือเรื่องการให้ชาติร่ำรวยต้องชดเชยให้กับชาติยากจนที่ได้รับผลกระทบจากโลกร้อน
Marimekko นำร่องโครงการ Closed Loop โดยใช้วัสดุเหลือใช้
นวัตกรรมเส้นใยจากใบอ้อยสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตรสู่ผลิตภัณฑ์แฟชั่นจากธรรมชาติ